ข้อควรปฏิบัติในการเลี้ยงน้องหมาน้องแมว
ข้อควรปฏิบัติในการเลี้ยงน้องหมาน้องแมว
รักษาสัตว์ ปัจจุบันสัตว์เลี้ยงมีบทบาทเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบ้าน ซึ่งเปรียบเหมือนสมาชิกครอบครัว เนื่องจากสภาพทางสังคมเปลี่ยนไป บางครอบครัวอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ บางครอบครัวแยกกันอยู่ ส่งผลต่อสภาพจิตใจทำให้เกิดความเหงาได้ บางคนเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน บางคนเลี้ยงไว้เพื่อความสวยงาม บางคนมีความชอบสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว สัตว์เลี้ยงที่คนส่วนใหญ่นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านนั้น อันดับแรกที่นึกถึงเลยคือ สุนัข แมว เป็นต้น สัตว์เลี้ยงมีอยู่หลากหลายชนิดหลากหลายพันธุ์ มีไว้ให้นักรักสัตว์เลี้ยงไว้เลือกเลี้ยงตามความชอบ
นอกจากสัตว์เลี้ยงจะเลี้ยงเพื่อคลายเหงา อยู่เป็นเพื่อนแล้ว บางคนเลี้ยงไว้เป็นลูกก็มี คือรักเหมือนลูก และสัตว์เลี้ยงยังเป็นสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่า ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของที่สุด ถึงแม้มันจะพูดไม่ได้ก็ตาม มันไม่เคยพูดวิจารณ์เจ้าของ ไม่เคยโกหก และฟังสิ่งที่เจ้าของพูด มันจึงเป็นเพื่อนที่รู้ใจและคอยอยู่เคียงข้างเจ้าของทุกสถานการณ์ เพราะฉะนั้นแล้วควรหมั่นดูแล และเอาใจใส่สัตว์เลี้ยงของคุณเป็นประจำ
ส่วนการฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่ปลอดภัยและดีที่สุด ในการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับน้องหมาน้องแมว ทำให้น้องมีภูมิคุ้มกันต่อโรคต่างๆ แต่เจ้าของเองก็ควรจะใส่ใจดูแลสภาพแวดล้อมรอบตัวน้องให้สะอาดด้วยเพื่อลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อโรคต่างๆ รวมถึงให้เขาได้ทานอาหารที่มีประโยชน์ มีวิตามินที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
รักษาสัตว์ การทำวัคซีนสำหรับ ลูกสุนัขและลูกแมว
เจ้าตัวน้อยจะได้รับภูมิคุ้มกันจากแม่ ในช่วงสัปดาห์แรกๆหลังคลอด โดยสามารถได้รับตั้งแต่ก่อนคลอดและการได้รับนมน้ำเลืองจากแม่ โดยภูมิคุุ้มกันนี้จะค่อยๆลดลงเมื่อลูกสัตว์อายุ 8-12 สัปดาห์ ซึ่ง MDA สามารถเข้าไปขัดขวางการกระตุ้นภูมิจากวัคซีนที่ทำได้ ลูกสัตว์ที่ได้รับ MDA น้อย (ไม่ได้กินนมน้ำเหลือง, แม่ไม่ได้รับการกระตุ้นวัคซีนอย่างถูกต้อง) อาจจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้และอาจจะตอบสนองต่อการให้วัคซีนได้ แต่ถ้าลูกสัตว์ได้รับ MDA มากก็จะทำให้การทำวัคซีนล้มเหลวได้ ดังนั้นการจัดโปรแกรมวัคซีนควรอยู่ในความเห็นของสัตวแพทย์ และปฏิบัติตามคำแนะนำ การที่สัตว์ได้รับวัคซีนอย่างถูกต้องและครบถ้วนจะช่วยลดโอกาสการติดเชื้อ หรือสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ในกรณีที่มีอาการป่วย
สรุปคือ ลูกสุนัขและลูกแมว ควรได้วัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 2 เดือน โดยหลังการได้รับวัคซีนประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ภูมิคุ้มกันจะค่อยๆถูกสร้างขึ้นเราจึงต้องทำการกระตุ้นวัคซีนซ้ำเพื่อให้ภูมิสูงพอจะป้องกันโรคได้ และเข็มสุดท้ายควรจะให้เมื่อลูกสัตว์อายุเลย 4 เดือนไปแล้ว โดยในช่วงที่ยังทำวัควีนไม่ครบตามโปรแกรมไม่ควรพาลูกสัตว์ออกไปพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ และให้ลูกสัตว์ได้พบเฉพาะสัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่สุขภาพดีและได้รับวัคซีนแล้วเท่านั้น
“แม้ว่าหมาแมวจะได้รับการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันแล้ว แต่ก็ควรพาเขากลับมาฉีดวัคซีนตัวเดิมซ้ำทุกปีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภูมิคุ้มกัน”
หลังจากทราบรายละเอียดการฉีดวัคซีนกันแล้วก็อย่าลืมพาน้องๆมากระตุ้นวัคซีนกันทุกปีนะ เพื่อให้มั่นใจว่าน้องๆ ได้รับภูมิคุ้มกันร่างกายเป็นอย่างดีแล้ว หมาแมวของเราจะได้สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย เป็นสิ่งที่เหล่าทาสๆทั้งหลายทำได้ เพื่อปกป้องสุขภาพให้กับสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเรา
สิ่งสำคัญอีกข้อในการเลี้ยงน้องๆ คือ การทำหมัน โดยการทำหมันหมา ทำหมันแมว เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ถาวร สามารถทำได้ทั้งสัตว์เลี้ยงเพศผู้ และเพศเมีย โดยในเพศผู้จะเป็นการผ่าตัดนำลูกอัณฑะออกทั้ง 2 ข้าง ส่วนเพศเมียเป็นการผ่าตัดนำส่วนของมดลูกและรังไข่ออก อายุที่เหมาะสมในการทำหมันคือ อายุตั้งแต่ 6 เดือนเป็นต้นไป หากเจ้าของไม่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงผสมพันธุ์มีลูกเพิ่ม การทำหมันถือเป็นวิธีในการควบคุมประชากรสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุด นอกจากนี้การทำหมันยังมีประโยชน์อื่นๆ ดังนี้
- ลด การปัสสาวะเรี่ยราด เพื่อแสดงอาณาเขต
เจ้าของหลายท่านที่เลี้ยงสุนัข หรือแมวเพศผู้ คงจะประสบปัญหาที่เจ้าตัวยุ่งชอบฉี่ตามที่ต่างๆเพื่อแสดงอาณาเขต หรือทำเครื่องหมาย ทำให้เกิดความสกปรก และมีกลิ่นเหม็นของฉี่ไปทั่วบ้าน การทำหมันอาจช่วยลดพฤติกรรมดังกล่าวได้ร่วมกับการฝึกนิสัยการขับถ่ายให้เป็นที่เป็นทาง
- ลด การหนีเที่ยวนอกบ้าน
เมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และระยะเป็นสัด สุนัขและแมวมักมีพฤติกรรมการหนีออกไปเที่ยวนอกบ้าน เพื่อไปผสมพันธุ์กับสัตว์เพศตรงข้าม นอกจากจะเป็นสาเหตุของการเพิ่มจำนวนประชากรสัตว์จรจัดแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น การต่อสู้กับสัตว์ตัวอื่นนอกบ้าน เป็นแผลโดนกัด ติดเชื้อ เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือโดนวางยาได้
- ลด ความก้าวร้าว
พฤติกรรมก้าวร้าวทั้งการต่อสู้ระหว่างสุนัขด้วยกัน หรือการก้าวร้าวกับคนในบ้าน ล้วนเป็นพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ การทำหมันช่วยลดฮอร์โมนเพศผู้ ทำให้สุนัขเรียบร้อยขึ้น และลดพฤติกรรมก้าวร้าวได้
- ลด ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งบางชนิด
การทำหมันในช่วงก่อนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ พบว่าช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งบางชนิดในสัตว์เลี้ยงได้ เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ มะเร็งที่ผนังมดลูกในสุนัขเพศเมีย และ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งอัณฑะ ในสุนัขเพศผู้ รวมทั้งโรคอื่นๆ เช่น มดลูกอักเสบ หรือติดเชื้อในสุนัขเพศเมีย เป็นต้น
- ลด จำนวนประชากรสัตว์เลี้ยง
ในแต่ละปีมีสุนัขและแมวที่ถูกทิ้งกลายเป็นสัตว์จรจัดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเจ้าของรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว และไม่สามารถเลี้ยงดูได้ จากการที่มีประชากรสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องการเพิ่มมากขึ้น เพราะไม่ได้มีการคุมกำเนิด การทำหมันเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ถาวร เพื่อลดประชากรสัตว์เลี้ยงที่ไม่ต้องการได้
- เพิ่ม อายุขัยของสัตว์เลี้ยงได้ถึง 3-5 ปี
การทำหมันช่วยเพิ่มอายุขัยของสัตว์เลี้ยงได้ถึง 3-5 ปี และช่วยให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดีในระยะยาว ส่วนหนึ่งเนื่องมาจากการช่วยลดอัตราความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
สิ่งที่เจ้าของกังวลอีกเรื่องหนึ่งคือ “หลังจากทำหมันแล้วจะทำให้สัตว์เลี้ยงอ้วนขึ้น” ซึ่งไม่เป็นความจริง การทำหมันไม่ได้เป็นสาเหตุให้สัตว์เลี้ยงอ้วนขึ้น แต่การทำหมันจะลดฮอร์โมนเพศ ซึ่งทำให้สัตว์เลี้ยงลดกิจกรรมต่างๆ ทำให้มีการเผาผลาญอาหารลดลง ดังนั้นเจ้าของควรมีการควบคุมอาหาร ลดปริมาณอาหารลง หรือให้อาหารสูตรสำหรับสุนัขและแมวหลังทำหมัน รวมทั้งการพาสัตว์เลี้ยงไปออกกำลังกายสม่ำเสมอ
เบื้องต้นหากเจ้าของสัตว์เลี้ยง ตัดสินใจที่จะพาน้องๆไปทำหมัน ควรเริ่มจากการพาน้องๆไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์ที่ โรงพยาบาลสัตว์ หรือคลินิก รักษาสัตว์ เพื่อประเมินความแข็งแรงของเจ้าตัวน้อย และความเสี่ยงในการวางยาสลบ โดยหากตรวจแล้วพบว่าน้องๆมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สัตวแพทย์จะทำการนัดหมายวันผ่าตัดในลำดับต่อไป
วิธีทำให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพดี
1.พาสัตว์เลี้ยงไปตรวจเช็คสุขภาพเป็นประจำ และพาไปฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคต่างๆ เพราะช่วงแรกภูมิคุ้มกันสัตว์เลี้ยงจะอ่อนแอและเสี่ยงติดเชื้อต่างๆได้ง่าย
2.สังเกตความผิดปกติของสัตว์เลี้ยง หากมีอาการผิดปกติเช่น ท้องร่วง เบื่ออาการ อาการที่ไม่ทราบสาเหตุควรรีบนำไปปรึกษาสัตวแพทย์ เพื่อหาสาเหตุอาการต่อไป
3.อาบน้ำเป็นประจำ ควรรักษาความสะอาดสัตว์เลี้ยงอยู่เป็นประจำ ดูแลเรื่องขน เรื่องเล็บ อวัยวะต่างๆเพื่อป้องกันโรคผิวหนังได้
4.อาหาร ควรให้กินอย่างพอเหมาะ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงของคุณได้รับคุณค่าทางอาหารที่จำเป็น หากมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืด ไม่สบายได้
5.ความใส่ใจ ใส่ใจสัตว์เลี้ยงให้เสมอต้นเสมอปลายเหมือนตอนเอามาเลี้ยงครั้งแรก เพราะสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับคุณ รักและเอาใจใส่ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงสุขภาพดีอยู่กับคุณไปได้อีกยาวนาน
คลินิกหมอเจอาร์สัตวแพทย์ | โรงพยาบาลสัตว์
ศูนย์อายุรกรรมโรคทั่วไป
ให้บริการปรึกษาและดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยง
วัคซีน ป้องกันเห็บหมัด พยาธิหนอนหัวใจ
ผ่าตัดเนื้อเยื่ออ่อน ทำหมัน ผ่าคลอด ผ่านิ่ว
อาบน้ำ ตัดขน
สอบถามเพิ่มเติม ปรึกษากับคุณหมอ
Tel : 084-400-8400
Line : @737qqxgd
เวลาทำการ 10:00-19:00
หยุดทุกวันอังคาร